3 มรดกโลก- 4 พลังศักดิ์สิทธิ์ -1 วีรบุรุษ

 มีวิทยากรพิเศษผู้รู้จริง นำชมถ้ำอจันตา-เอลโลรา

นำทัวร์ตลอดทริปโดย ดร.กฤติยา วโรดม

• สักการะพระพิฆเนศ 3 องค์ ; พระคเณศนครมุมไบ, พระพิฆเนศแห่งปูเน่ รวยที่สุดในโลก, องค์ทัคฑูเสฐ สวยัมภู เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ
• สักการะพระแม่มหาศักติทั้งสามสิ่งสักการะสูงสุดของนครมุมไบและฟังเรื่องราวอันน่าทึ่ง
• ชมวัดตุลสีรามไม้สักทั้งหลังอายุหลายร้อยปี แต่ยังมีเสาตกน้ำมัน
• วังอกาข่าน สถานที่กักขังมหาตมะคานธีบินโดยแอร์อินเดีย
• เส้นทางชมธรรมชาติยอดนิยม Kasara Ghat

จุดเด่นทัวร์

1. เที่ยวเมืองปูเน่ ซึ่งเป็นเมืองที่มีองค์พระพิฆเนศศักดิ์สิทธิ์ และวัดฮินดูโบราณ ทัวร์ส่วนใหญ่ไม่ได้บรรจุเมืองปูเน่ไว้
2. บิน Full Service ออกแบบเวลาดี ไม่ต้องตื่นแต่ดึกหรือเช้าตรู่เพื่อเริ่มเดินทาง
3. ถึงมุมไบวันแรกตั้งแต่ช่วงบ่าย ทำให้มีเวลาเที่ยวเพิ่มแบบสบายๆ
4. พักโรงแรมหรูกลางเมืองมุมไบ สามารถเดินออกมาช้อปปิ้งได้โดยอิสระ
5. กรุ๊ปเล็กเฉพาะของหน่อโพธิ์ แทรเวล ไม่ใช่ทัวร์เหมาส่งต่อ

คลิก >> โหลดโปรแกรมทัวร์

ขยายโปรโมชั่นร่วมฉลองฟรีวีซ่าอินเดีย+ลดเพิ่ม รวม 2,400- เมื่อจองภายใน 30 สิงหาคม 2567 เท่านั้น

ประติมากรรมชิ้นเอกในเทวาลัยถ้ำหมายเลข ๑ ของหมู่ถ้ำบนเกาะเอเลฟเฟนต้า ที่มีอายุราว พศต.ที่ ๑๐-๑๑ คือ รูปเคารพพระสทาศิวะ หรือบางคนเรียกว่า พระตรีมูรติ ขนาดครึ่งองค์สูงถึง ๗ เมตร

คนไทยเราเข้าใจกันว่าเป็น พระตรีมูรติ ที่หมายถึง พระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ รวมกัน แต่ลองสังเกตุให้ดี ดูภาพใบหน้าที่ขยายขึ้นมาข้างๆ จะเห็นว่า ด้านซ้ายมีลักษณะเป็นใบหน้าผู้หญิง ส่วนด้านขวาคล้ายยักษ์ จึงไม่น่าจะใช่พระพรหม และพระนารายณ์ อย่างที่เข้าใจ

แต่ก็ยังสามารถเรียกว่า ตรีมูรติ ได้อยู่เหมือนกัน เพราะคำนี้ มีความหมายทางปรัชญาว่า สร้าง-รักษา-และทำลาย องค์กลางคือ พระศิวะ เทพสูงสุดของไศวนิกาย เป็นทั้งผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย องค์ด้านซ้ายคือ อดิศักติ ซึ่งก็คือพระอุมา ชายาของพระศิวะนั่นเอง โดยรากศัพท์ “ศักติ” แปลว่า ศักดิ์หรือความสามารถ หมายถึงพลังที่สนับสนุนชีวิตทั้งปวงให้ดำรงอยู่ นั่นคือการประคับประคองโลกไว้ด้วย ก็น่าจะเปรียบได้กับการดูแลรักษาโลก (เหมือนหน้าที่ของพระนารายณ์เช่นกัน)

ส่วนองค์ด้านขวา คือ พระไภรวะ เป็นภาคดุร้ายที่สุดของพระศิวะ มีหน้าที่กำจัดอสูร สิ่งชั่วร้าย ทำลายความไม่ดีทั้งหลาย (พระไภรวะ คนไทยจะรู้จักกันในชื่อ พระพิราพ)

ทั้งสามภาพลักษณ์จึงแสดงถึง "ตรีมูรติ" เช่นกัน แต่อยู่ในรูปของ "พระสทาศิวะ" คือพระศิวะที่อยู่ในภาคสูงสุด รวมการกำเนิด ดำรงอยู่ และสิ้นสุดเอาไว้ด้วยกัน ไม่น่าจะใช่พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ อย่าที่เราคุ้นเคย

(หมายเหตุ : เทวาลัยถ้ำแห่งนี้เป็นของไศวนิกาย ประติมากรรมล้วนเป็นเรื่องราวของพระศิวะและครอบครัว)

อธิบายความโดย ดร.กฤติยา วโรดม